เช็กให้ชัวร์ ! สรุปแล้วเราตั้งครรภ์หรือไม่ ตรวจครรภ์ตอนไหนดีให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ 

สำหรับครอบครัวไหนที่กำลังวางแผนที่จะมีลูก หรือกำลังสงสัยว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์อยู่หรือเปล่า คำถามแรกที่เข้ามาในหัวคงจะเป็น ตรวจครรภ์ตอนไหนดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำที่สุด ? ตอนเช้า หรือ ตอนเย็น ? แล้วตรวจด้วยวิธีไหนชัวร์สุด วันนี้ Mamastory มีคำตอบตามไปอ่านกันได้เลย 

ตรวจการตั้งครรภ์เร็วที่สุดกี่วัน ? 

หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว ตัวอ่อนจะเข้าไปฝังตัวที่เยื่อบุโพรงมดลูก ได้เร็วที่สุดภายใน 5 วัน ไปจนถึง 14 วันเลยทีเดียว ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่า คุณมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ไข่ตกหรือไม่นั่นเอง ดังนั้น เราขอแนะนำให้ตรวจครรภ์หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว 2 อาทิตย์เป็นต้นไป ผลลัพธ์ถึงจะออกมาแม่นยำที่สุด และไม่ควรตรวจครรภ์เร็วจนเกินไป อาจทำให้ผลคลาดเคลื่อนได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : คุณแม่ควรรู้! วิธีนับอายุครรภ์ นับอย่างไรให้ถูกต้องและแม่นยำ

ตรวจครรภ์มีวิธีไหนบ้าง ? 

โดยส่วนใหญ่แล้ว วิธีที่ง่ายที่สุดในการตรวจครรภ์นั่นก็คือการตรวจจากปัสสาวะ โดยการใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ หรือรู้จักกันในชื่อว่าที่ตรวจครรภ์นั่นเอง แต่ก็ยังมีวิธีอื่น ๆ ที่ตรวจการตั้งครรภ์ได้อีกอย่าง ได้แก่ การตรวจเลือด และ การอัลตราซาวนด์ นั่นเอง 

ตรวจครรภ์จากปัสสาวะ (Urine Pregnancy Test)

การตรวจครรภ์โดยใช้ปัสสาวะ มีหลากหลายแบบให้เลือกใช้เช่นเดียวกัน ได้แก่ 

• ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม เป็นที่ตรวจครรภ์ที่หาซื้อได้ทั่วไป และราคาถูก ที่ตรวจครรภ์แบบนี้จะมีลักษณะเป็นแผ่น ทดสอบโดยการนำลงไปจุ่มในถ้วยเก็บปัสสาวะ ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จึงนำขึ้นมาอ่านผล
• ที่ตรวจครรภ์แบบหยด ที่ตรวจครรภ์แบบนี้ ทดสอบได้ด้วยวิธีการเก็บปัสสาวะใส่ถ้วยเก็บปัสสาวะ นำหลอดหยดดูด ปัสสาวะ ประมาณ 3 หยด (หรือตามคำแนะนำข้างผลิตภัณฑ์) หยดลงบนตลับตรวจ ตั้งทิ้งไว้แล้วจึงค่อยอ่านผล 
• ที่ตรวจครรภ์แบบปากกา หรือ รู้จักกันในชื่อที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะผ่าน มีลักษณะคล้ายปากกา ทดสอบได้โดยการปัสสาวะผ่านแผ่นที่ติดกับตัวปากกาได้เลยจนกว่าจะปัสสาวะหมด รอสักครู่ แล้วค่อยอ่านผล
• ที่ตรวจครรภ์แบบดิจิทัล ที่ตรวจครรภ์แบบนี้ ลักษณะคล้ายที่ตรวจครรภ์แบบปากกา แต่จะมีหน้าจอแสดงผลให้เลยว่าตั้งครรภ์หรือไม่ มีความแม่นยำ แต่ราคาค่อนข้างสูง 

โดยที่ตรวจครรภ์แบบนี้ เราสามารถอ่านค่าได้ง่าย ๆ เลยคือ หากขึ้นสองขีด แปลว่าตั้งครรภ์แล้ว แต่ถ้าหากขึ้นขีดเดียวแปลว่ายังไม่ตั้งครรภ์นั่นเอง และเพื่อความชัวร์ ให้ตรวจสองครั้ง เพื่อผลที่แม่นยำกว่าเดิม หรือถ้าหากยังขึ้นขีดเดียวอยู่ ในเว้นระยะห่างประมาณ 7 วัน แล้วค่อยตรวจใหม่อีกครั้ง 

บทความที่เกี่ยวข้อง : อัลตราซาวนด์ สำคัญอย่างไร เหตุผลที่คุณแม่ท้องควรตรวจทุกไตรมาส

ตรวจครรภ์จากเลือด (Blood Test)

วิธีการตรวจครรภ์แบบนี้ จะต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น สามารถไปตรวจได้ที่โรงพยาบาลต่าง ๆ หรือคลินิกบางแห่งก็อาจมีบริการตรวจ เป็นการเจาะเลือดไปตรวจ ค่า HCG ซึ่ง สามารถตรวจได้ หลังมีการปฏิสนธิ 7- 10 วันนั่นเอง ถ้าหากค่า HCG มากกว่า 25 mIU/mL ก็ยินดีด้วยค่ะ คุณเป็นคุณแม่ท้องอ่อนแล้ว 

อัลตราซาวนด์ (Ultrasound)

เช่นเดียวกับการตรวจครรภ์แบบเจาะเลือด การตรวจครรภ์แบบอัลตราซาวนด์นั้น แพทย์จะเป็นผู้ตรวจให้ ซึ่งสามารถตรวจได้ ตั้งแต่ทารกอายุประมาณ 5-6 สัปดาห์ แพทย์ก็สามารถเห็นถุงการตั้งครรภ์ของหัวใจทารกได้แล้วค่ะ 

หากมีอาการเหล่านี้ท้องแน่นอน ! 

วันนี้เรามีวิธีสังเกตอาการตัวเองเบื้องต้นว่าตั้งครรภ์หรือไม่ 5 อาการด้วยกัน เผื่อใครกำลังสงสัยว่าอาการแบบนี้ ตั้งครรภ์หรือเปล่า 

• ประจำเดือนขาด แน่นอนว่าการที่ผู้หญิงประจำเดือนมา เกิดมาจากการลอกตัวของเยื่อบุโพรงมดลูก เมื่อเกิดการปฏิสนธิ ตัวอ่อนเข้าไปฝังอยู่ในมดลูกแล้ว ทำให้เวลาตั้งครรภ์ประจำเดือนขาดไปนั่นเอง
• อาการตะคริวบริเวณมดลูก ในช่วงแรกของการปฏิสนธิ ตัวอ่อนจะเข้าไปฝังในเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งอาจทำให้มีการตะคริวเกิดขึ้นเล็กน้อยบริเวณมดลูก เป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์นั่นเอง 
• หน้าอกขยาย เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว ร่างกายจะทำการผลิตฮอร์โมนเพศหญิงออกมามากขึ้น เลือดไปเลี้ยงที่เต้านมมากขึ้น ทำให้หน้าอกขยายได้นั่นเอง
• ปัสสาวะบ่อย อันเกิดมาจากสาเหตุของการที่เลือดในร่างกายที่สูบฉีด ทำให้ไตประมวลของเหลวมากกว่าปกติ ทำให้มีของเหลวในกระเพาะปัสสาวะมากขึ้น ทำให้ปัสสาวะบ่อยนั่นเอง
• มีอาการแพ้ท้อง อย่างเช่น อาการคลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ และอาเจียน เกิดจากอาการที่ฮอร์โมนเพิ่มมากขึ้น 
  
  
  
  

ตรวจครรภ์ตอนไหนดีที่สุด 

คำถามที่มักจะพบได้บ่อย ๆ ก็คือ ตรวจครรภ์ตอนไหนดี ตอนเช้า หรือ ตอนเย็น ผลจะชัวร์มากที่สุด บ้างก็บอกว่า ตรวจตอนเช้าตอนปัสสาวะครั้งแรก ผลจะแม่นยำที่สุด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะบ่งบอกได้ว่าคุณผู้หญิงนั้นกำลังตั้งครรภ์อยู่หรือไม่ นั่นคือฮอร์โมนที่เรียกว่า hCG หรือ Human Chorionic Gonadotropin ซึ่งจะผลิตเมื่อเกิดการปฏิสนธิภายใน ซึ่ง ค่า hCG ของผู้หญิงที่ตั้งครรภ์จะเริ่มต้นที่ ประมาณ 6 mIU/mL แต่ส่วนใหญ่แล้วจะตรวจพบที่ 25 mIU/mL และจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาของการตั้งครรภ์ ดังนั้น ถ้าถามว่า ตรวจตอนไหนดีที่สุด คำตอบก็คือสามารถตรวจได้ทุกตอน เพราะ ที่ตรวจครรภ์ส่วนใหญ่ก็จะใช้วิธีตรวจหาค่าฮอร์โมน hCG ที่มีอยู่ในร่างกายนั่นเองค่ะ 

เป็นอย่างไรกันบ้าง คลายความสงสัยเรื่อง เวลาของการตรวจครรภ์กันไปแล้ว หวังว่าบทความนี้จะช่วยตอบคำถามเรื่อง การตรวจครรภ์กันไปไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตามการที่จะได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ อย่างเช่นวิธีการใช้งาน ดังนั้นควรศึกษาขั้นตอนการใช้อย่างละเอียด เพื่อผลลัพธ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ทำหมันแล้วท้อง เกิดขึ้นได้อย่างไร? มาค้นหาคำตอบไปพร้อมกัน

รู้หรือไม่! แท้งลูก เกิดจากอะไร? หนึ่งในอาการที่ส่งผลอันตรายต่อคุณแม่และลูกในท้อง

แม่ท้องหายใจไม่สะดวก เกิดจากอะไร? มาไขข้อสงสัยไปพร้อมกัน

ที่มา : 1, 2